วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เชลซี

                                              Chelsea crest.png


สโมสรฟุตบอลเชลซี (อังกฤษChelsea Football Club) เป็นทีมฟุตบอลในอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2448 (ค.ศ. 1905) เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดมาแล้ว 4 ครั้ง รวมฤดูกาลล่าสุด (2009-10) เป็นแชมป์ เอฟเอคัพ 9 ครั้ง แชมป์ ลีกคัพ 8 ครั้ง และแชมป์ ยูฟ่าคัพ 10 ครั้ง สนามของเชลซีคือ สแตมฟอร์ดบริดจ์ จุผู้ชมได้ 42,055 คน ตั้งอยู่ในเขตชุมชนฟูแลมบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลอนดอน ทีมฟุตบอลเชลซีไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตชุมชนเชลซี แต่ตั้งอยู่บนถนนฟูแลม ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างเขตฟูแลมและเขตเชลซี

ประวัติ

สโมสรฟุตบอลเชลซีก่อตั้งเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2448 (ค.ศ. 1905) ที่ ผับชื่อเดอะไรซิงซัน ตรงข้ามกับสนามแข่งปัจจุบันบนถนนฟูแลม และได้เข้าร่วมกับลีกฟุตบอลในเวลาต่อมา เชลซีเริ่มมีชื่อเสียงภายหลังจากที่ได้รับชัยชนะใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 1954–55
ปี 1996 แต่งตั้ง รุด กุลลิท(Ruud Gullit) เป็นทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีม เชลซีสามารถคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ในยุคของกุลลิทนี้
ปี 1997 เปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็น จิอันลูก้า วิอัลลี่( Gianluca Vialli) โดยเป็นทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีมในช่วงแรก ในยุคของวิอัลลี่นี้สามารถทำทีมได้แชมป์ลีกคัพ และ ยูฟ่า คัพวินเนอร์สคัพและสามารถเข้าถึงรอบรอง"ยูฟ่า คัพวินเนอร์สคัพ"ได้เป็นปีทีสองติดต่อกันก่อนที่จะแพ้รีล มายอร์ก้าในปีนั้นทีมที่ได้แชมป์คือ ลาซิโอทีมจากอิตาลีไป ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่มีการจัดการแข่งขัน "ยูฟ่า คัพวินเนอร์สคัพ"
ปี 2000 จิอันลูก้า วิอัลลี่ถูกปลดออกจากผู้จัดการทีมและแทนที่ด้วย เคลาดิโอ รานิเอรี(Claudio Ranieri) เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ในยุคของรานิเอรีนั้น เชลซีมีผลงานติดห้าอันดับแรกของของพรีเมียร์ลีกอย่างสม่ำเสมอ
มิถุนายน ปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ.2003) โรมัน อบราโมวิช เข้าซื้อกิจการต่อจากเคน เบตส์(Ken Bates) ในราคา 140 ล้านปอนด์ หลังการเข้าซื้อกิจการของมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เคลาดิโอ รานิเอรีซึ่งเป็นผู้จัดการทีมในขณะนั้นยังคงได้คุมทีมต่อไป ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทีมอย่างมากมาย มีการซื้อนักเตะชื่อดังหลายรายเข้ามาเสริมทีมโดยใช้เงินไปอีกมากมายกว่าร้อยล้านปอนด์ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันเชลซีไม่คว้าแชมป์ใดมาได้เลย สามารถทำอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก และ เข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก เมื่อจบฤดูกาลแรกหลังจากเข้าซื้อกิจการของมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ทางทีมจึงได้ปลด เคลาดิโอ รานิเอรี่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม และได้เซ็นสัญญาให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ( José Mourinho)เป็นผู้จัดการทีมต่อมา
ปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ.2004) เปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษในสมัยนั้นเป็นอย่างมากกับบทสัมภาษณ์และทัศนะของ มูริญโญ่เอง
ปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ.2005) ได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกหลังจาก โรมัน อบราโมวิช เข้าซื้อกิจการของสโมสร และครบร้อยปีจากการตั้งสโมสร
ปี พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) ได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งสองสมัยติดต่อกัน
20 กันยายน พ.ศ. 2550 มูรินโญ่ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง หลังจากทำผลงานไม่ดี 3 นัดติดต่อกัน แพ้ แอสตันวิลลา 0-2 เสมอแบล็กเบิร์นโรเวอร์ส 0-0 และไล่ตีเสมอโรเซนบอร์ก 1-1 [1] และเปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็น อัฟราม แกรนท์ (Afram Grant)
11 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 สิ้นสุดฤดูกาลแรกของ อัฟราม แกรนท์ ไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ หลังจากรับงาน อัฟราม แกรนท์ พาทีมเชลซีต่อสู้แย่งแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงนัดสุดท้าย แต่ไม่สามารถทำได้โดยนัดสุดท้ายทำได้เพียงเสมอกับ โบลตัน (Bolton)1-1 โดยถูกตีเสมอในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน สิ้นสุดฤดูกาลเชลซีทำแต้มได้ 85 แต้ม โดยแชมป์(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)ทำได้ 87 แต้ม
21 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เข้าชิงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสร กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย ในเวลา 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องเตะลูกจุดโทษตัดสิน เชลซีแพ้ไป 10-9 ประตู
24 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ผู้บริหารสโมสรมีมติปลดอัฟราม แกรนท์ ออกจากตำแหน่ง
1 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 สโมสรเชลซีแต่งตั้ง หลุย เฟลิปเป้ สโกลารี่ ขึ้นเป็นกุนซือเชลซีอย่างเป็นทางการ
9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 สโกลารี่ทำผลงานได้ไม่ดี หลังจากนำทีมเสมอต่อ ฮัลล์ 1-1 ตามหลังแมนฯ ยูผู้นำอยู่ 7 แต้ม ผู้บริหารสโมสรได้มีมติปลดออกจากตำแหน่ง
12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 มติสโมสรแต่งตั้ง กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือชาวฮอลแลนด์ผู้จัดการทีมชาติรัสเซียเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยฮิดดิ้งค์จะทำหน้าที่ควบ 2 ตำแหน่ง ทั้งผู้จัดการทีมชาติรัสเซียและผู้จัดการเชลซี และกุส ฮิดดิ้งค์ นี้พาเชลชี คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 5 โดยเอาชนะเอฟเวอร์ตันในนัดชิงชนะเลิศ
1 มิถุนายน พ.ศ. 2552 สโมสรเชลซีแต่งตั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ ขึ้นเป็นกุนซือเชลซีอย่างเป็นทางการ
ปี พ.ศ. 2553 ได้แชมป์พรีเมียร์ชิพ นับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 4
ปี พ.ศ. 2553 คว้า ดับเบิ้ลแชมป์ เป็นครั้งแรก ของสโมสร โดยคว้า แชมป์ พรีเมียร์ลีก และ FA-CUP

สแตมฟอร์ดบริดจ์

สนามฟุตบอลสแตมฟอร์ดบริดจ์
สแตมฟอร์ดบริดจ์ (Stamford Bridge) เป็นสนามฟุตบอลแห่งเดียวของเชลซีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมาตั้งอยู่ในเขตฟูแลม ในลอนดอน โดยเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2420 โดยในช่วง 28 ปีแรกที่เปิดใช้ ได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของสนามกรีฑาด้วย สนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ออกแบบโดยสถาปนิกชาวสกอต บรรจุคนได้กว่า 42,000 คน

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

Note: ธงชาติที่ปรากฎบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะบางผู้เล่นอาจถือสองสัญชาติ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
1Flag of the Czech RepublicGKปีเตอร์ เช็ก
2ธงชาติของเซอร์เบียDFบรานิสลาฟ อิวาโนวิช
3ธงชาติของอังกฤษDFแอชลี่ย์ โคล
4ธงชาติของบราซิลDFดาวิด ลูอิซ
5ธงชาติของกานาMFมิคาเอล เอสเชียง
7ธงชาติของบราซิลMFรามิเรส
8ธงชาติของอังกฤษMFแฟรงค์ แลมพาร์ด (รองกัปตันทีม)
9ธงชาติของสเปนFWเฟร์นานโด ตอร์เรส
10ธงชาติของอิสราเอลMFยอสซี่ เบนายูน
11ธงชาติของโกตดิวัวร์FWดิดิเยร์ ดร็อกบา
12ธงชาติของไนจีเรียMFจอห์น โอบี มิเกล
15ธงชาติของฝรั่งเศสMFฟลอรองต์ มาลูด้า
17ธงชาติของโปรตุเกสDFโจเซ่ โบซิงวา
18ธงชาติของรัสเซียMFยูริ เซอร์คอฟ
19ธงชาติของโปรตุเกสDFเปาโล แฟร์ราร่า
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
21ธงชาติของโกตดิวัวร์FWซาโลมง กาลู
22ธงชาติของอังกฤษGKรอส เทิร์นบูล
23ธงชาติของอังกฤษFWดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
26ธงชาติของอังกฤษDFจอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม)
33ธงชาติของบราซิลDFอเล็กซ์
39ธงชาติของฝรั่งเศสFWนิโกล่าส์ อเนลก้า
40ธงชาติของโปรตุเกสGKเฮนริเก้ ฮิลาริโอ
43Flag of the NetherlandsDFเจฟฟรี่ย์ บรูม่า
44ธงชาติของฝรั่งเศสFWกาเอล กาคูต้า
45ธงชาติของอิตาลีFWฟาบิโอ บอรินี่
46ธงชาติของอังกฤษMFจอร์ช แม็คอีชแรน

อดีตผู้เล่นที่โด่งดัง

(นับปีที่เข้ามาในสโมสร)
  • ทศวรรษที่ 1990
Note: ธงชาติที่ปรากฎบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะบางผู้เล่นอาจถือสองสัญชาติ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
2ธงชาติของโรมาเนียแดน เปเตรสคู
3ธงชาติของอังกฤษแกรม เลอโซ
5ธงชาติของฝรั่งเศสฟร้องซ์ เลอเบิฟ
11ธงชาติของอังกฤษเดนนิส ไวส์ (อดีตกัปตันทีม)
9ธงชาติของอิตาลีจิอันลูกา วิอัลลี่
25ธงชาติของอิตาลีจิอันฟรังโก้ โซล่า
19ธงชาติของนอร์เวย์ทอเร อังเดร โฟล
6ธงชาติของฝรั่งเศสมาแซล เดอไซญี่ (อดีตกัปตันทีม)
22ธงชาติของไอซ์แลนด์ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซน
36ธงชาติของเดนมาร์กเจสเปอร์ กรุนชา
9Flag of the Netherlandsจิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์
16ธงชาติของอิตาลีโรแบร์โต้ ดิ มัทเทโอ
23ธงชาติของอิตาลีคาร์โล คูดิชินี่

  • ทศวรรษที่ 2000
Note: ธงชาติที่ปรากฎบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะบางผู้เล่นอาจถือสองสัญชาติ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
11Flag of Irelandเดเมียน ดัฟฟ์
13ธงชาติของฝรั่งเศสวิลเลียม กัลลาส
16Flag of the Netherlandsอาเยน ร็อบเบน
14ธงชาติของแคเมอรูนเฌเรมี่ เอ็นจิตาป
18ธงชาติของอังกฤษเวย์น บริดจ์
4ธงชาติของฝรั่งเศสโคล้ด มาเกเลเล่
24ธงชาติของอังกฤษฌอน ไรท์ ฟิลิปส์
10ธงชาติของอังกฤษโจ โคล
13ธงชาติของเยอรมนีมิชาเอล บัลลัค
35ธงชาติของบราซิลฮูเลียโน เบลเล็ตติ
20ธงชาติของโปรตุเกสเดโก้
6ธงชาติของโปรตุเกสริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่

ผู้เล่นที่โด่งดัง

2001 - ปัจจุบัน
ชื่อสัญชาติตำแหน่งเล่นให้เชลซีจำนวนครั้ง (ตัวสำรอง)รวมประตู
จิอันฟรังโก้ โซล่าธงชาติของอิตาลีFW1996-2003229 (44)27359
จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์Flag of the NetherlandsFW2000-2004136 (17)15369
เจสเปอร์ กรุนชาธงชาติของเดนมาร์กMF2000-2004104 (32)1367
ไอเดอร์ กุ๊ดจอห์นเซนธงชาติของไอซ์แลนด์FW2000-2006186 (60)24654
ทอเร อังเดร โฟลธงชาติของนอร์เวย์FW1997-2001112 (53)16534
มาแซล เดอไซญี่ธงชาติของฝรั่งเศสDF1998-2004158 (2)1606
คาร์โล คูดิชินี่ธงชาติของอิตาลีGK1999-2009142 (4)1460
วิลเลียม กัลลาสธงชาติของฝรั่งเศสDF2001-2006159 (12)17112
เดเมี่ยน ดัฟฟ์Flag of IrelandMF2003-200681 (18)9914
เฌเรมี่ธงชาติของแคเมอรูนMF2003-200772 (24)964
โคล้ด มาเกเลเล่ธงชาติของฝรั่งเศสMF2003-2008144 (12)1562
เวย์น บริดจ์ธงชาติของอังกฤษDF2003-200987(13)1001
อาเยน ร็อบเบนFlag of the NetherlandsMF2004-200767 (16)8315
จอห์น ไรท์ ฟิลิปส์ธงชาติของอังกฤษMF2005-200982 (39)1214
โจ โคลธงชาติของอังกฤษMF2003-2010188 (92)28039
มิชาเอล บัลลัคธงชาติของเยอรมนีMF2006-2010139 (29)16826
เบลเล็ตติธงชาติของบราซิลDF2007-201054 (25)795
เดโก้ธงชาติของโปรตุเกสMF2008-201042 (15)576
ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ธงชาติของโปรตุเกสDF2004-2010233 (7)24010
แซม ฮันซิมสันธงชาติของอังกฤษDF2006-20101 (3)40

ผู้เล่นที่ยิงครบ 100 ประตู

พรีเมียร์ลีก-ถ้วยอื่น ๆ
ชื่อสัญชาติตำแหน่งเล่นให้เชลซีจำนวนครั้ง (ตัวสำรอง)รวมประตู
แฟรงค์ แลมพาร์ดธงชาติของอังกฤษMF2001-ปัจจุบัน449 (24)473156
ดิดิเยร์ ดร็อกบาธงชาติของโกตดิวัวร์FW2004-ปัจจุบัน209 (48)257129

นักเตะยอดเยี่ยมประจำปี 1967-2010

YearWinner
1967ธงชาติของอังกฤษ ปีเตอร์ โบเน็ตติ
1968ธงชาติของสกอตแลนด์ ชาร์ลี คุก
1969ธงชาติของอังกฤษ เดวิด เว็บ
1970ธงชาติของอังกฤษ จอห์น ฮอลลินส
1971ธงชาติของอังกฤษ จอห์น ฮอลลินส
1972ธงชาติของอังกฤษ เดวิด เว็บ
1973ธงชาติของอังกฤษ ปีเตอร์ ออสกู๊ด
1974ธงชาติของอังกฤษ แกรี่ ล็อก
1975ธงชาติของสกอตแลนด์ ชาร์ลี คุก
1976ธงชาติของอังกฤษ เรย์ วิลกินส์
1977ธงชาติของอังกฤษ เรย์ วิลกินส์
1978ธงชาติของอังกฤษ มิกกี้ ดรอย
 
YearWinner
1979ธงชาติของอังกฤษ ทอมมี่ แลงลี่ย์
1980ธงชาติของอังกฤษ ไคล์ วอล์กเกอร์
1981ธงชาติของยูโกสลาเวีย ปีเตอร์ โบโรต้า
1982ธงชาติของอังกฤษ ไมค์ ฟิลเลรี่
1983ธงชาติของเวลส์ โจอี้ โจนส์
1984ธงชาติของสกอตแลนด์ แพท เนวิน
1985ธงชาติของสกอตแลนด์ เดวิด สปีดี้
1986ธงชาติของเวลส์ เอ็ดดี้ นีดสวิกกี้
1987ธงชาติของสกอตแลนด์ แพท เนวิน
1988ธงชาติของอังกฤษ โทนี่ โดริโก้
1989ธงชาติของอังกฤษ เกรแฮม โรเบิร์ต
1990Flag of the Netherlands เคน มองกู
1991Flag of Ireland แอนดี้ ทาวเซ่น
1992ธงชาติของอังกฤษ พอล เอลเลียต
1993ธงชาติของจาเมกา แฟรงค์ ซินแคลร์
1994ธงชาติของสกอตแลนด์ สตีฟ คลาร์ก
 
YearWinner
1995ธงชาติของนอร์เวย์ เออร์แลนด์ จอห์นเซ่น
1996Flag of the Netherlands รุด กุลลิต
1997ธงชาติของเวลส์ มาร์ก ฮิวจส์
1998ธงชาติของอังกฤษ เดนนิส ไวซ์
1999ธงชาติของอิตาลี จิอันฟรังโก้ โซล่า
2000ธงชาติของอังกฤษ เดนนิส ไวซ์
2001ธงชาติของอังกฤษ จอห์น เทอร์รี่
2002ธงชาติของอิตาลี จิอันฟรังโก้ โซล่า
2004ธงชาติของอังกฤษ แฟรงค์ แลมพาร์ด
2005ธงชาติของอังกฤษ แฟรงค์ แลมพาร์ด
2006ธงชาติของอังกฤษ จอห์น เทอร์รี่
2007ธงชาติของกานา มิคาเอล เอสเซียง
2008ธงชาติของอังกฤษ โจ โคล
2009ธงชาติของอังกฤษ แฟรงค์ แลมพาร์ด
2010ธงชาติของโกตดิวัวร์ ดิดิเยร์ ดร็อกบา

ทำเนียบผู้จัดการทีม

Year
1933-1939 เลสลี่ ไนท์ตัน
1939-1952 บิลลี่ แบร์เรลล์
1952-1961 เท็ด เดร็ค
1962-1967 ทอมมี่ ด็อคเคอร์ตี้
1967-1974 เดฟ เซ็กตัน
1974-1975 รอน ซอวร์ต
1975-1977 เอ็ดดี้ แม็คเครดี้
1977-1978 เคน เชลลิโต้
1978-1979 แดนนี่ บลังค์ฟลาวเวอร์ส
1979-1981 เจฟฟ์ เฮิร์สต์
1981-1985 จอห์น นีล
1985-1988 จอห์น ฮอลลินส์
1988-1991 บ็อบบี้ แคมป์เบลล์
1991-1993 เอียน พอร์เตอร์ฟิลด์
1993 เดวิด เวบบ์
1993-1996 เกล็น ฮอดเดิ้ล
1996-1998 รุด กุลลิท
1998-2000 จิอันลูก้า วิอัลลี่
2000-2004 เคลาดิโอ รานิเอรี่
2004-2007 โชเซ่ มูรินโญ่
2007-2008 อัฟราม แกรนท์
2008-2009 หลุยส์ ฟิลิปเป สโคลารี
2009 กุส ฮิดดิงค์
2009-ปัจจุบัน คาร์โล อันเชลอตติ

สัญลักษณ์ทีม

ผลงาน

สถิติ

  • สถิติผู้ชมสูงสุด : ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ นัดพบกับอาร์เซน่อล ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1958 มีผู้ชมเข้ามาชมถึง 182,905 คน
  • สถิติผู้ชมน้อยที่สุด : ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ นัดที่พบกับ ลินคอล์น ซิตี้ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1906 มีผู้ชมเพียง 110 คน
  • สถิติชนะสูงสุด : ในนัดพบกับ จิวเนส ฮัทคาเรจ ซึ่งถูกพวกเขาถลุงไปถึง 13-0 ในวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1971
  • สถิติชนะสูงสุด : ในนัดพบกับ วีแกน แอดแลนติก ซึ่งถูกพวกเขาถลุงไปถึง 8-0 ในวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ 2010
  • สถิติแพ้สูงสุด : ในนัดพบกับ วูล์ฟแฮมตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่อัดพวกเขาไป 8-1 ในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1953
  • ผู้เล่นในลีกสูงสุด : รอนแฮร์ริส, 655 นัด, 1962-80
  • สถิติซื้อนักเตะค่าตัวแพงที่สุด : 50 ล้านปอนด์, เฟร์นานโด ตอร์เรส จาก ลิเวอร์พูล, กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011
  • สถิติซื้อนักเตะค่าตัวแพงที่สุด : 30 ล้านปอนด์, อังเดร เชฟเชนโก้ จาก เอซี มิลาน, มิถุนายน ค.ศ. 2006
  • สถิติขายนักเตะแพงที่สุด : 44 ล้านปอนด์, อาร์เยน ร็อบเบน ไป เรอัลมาดริด, สิงหาคม ค.ศ. 2007
  • นักเตะที่ทำประตูรวมสูงสุดใน 1 ฤดูกาล :ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , 37 ประตู , 2009-2010
  • นักเตะที่ทำประตูรวมสูงสุดในช่วงที่อยู่กับเชลซี : แฟรงค์ แลมพาร์ด, 156 ประตู, 2010
  • ยิงประตูรวมมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก : 103 ประตู, 2010

แหล่งข้อมูลอื่น

เว็บไซต์แฟนคลับในเมืองไทย